{Recent News}
ศุกร์สมุนไพร EP.031
—-
สมุนไพรกับโรคไต
1. หญ้าไผ่น้ำ
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tradescantia fluminensis
ชื่อสามัญ: River Spiderwort
วงศ์ : Commelinaceae
.
ลักษณะของหญ้าไผ่น้ำ
หญ้าไผ่น้ำ เป็นไม้ล้มลุก มีลักษณะเป็นใบเรียวกลม ด้านบนของใบมีสีเขียว ด้านหลังของใบเป็นสีบานเย็น มีก้านเป็นข้อ ๆ เลื้อยไปตามพื้นดิน ก้านจะมีขนอ่อนนิดๆ
.
ความเชื่อที่ผิด
เกี่ยวกับหญ้าไผ่น้ำ
ปัจจุบันมีการเเชร์ผ่านสื่อออนไลน์จำนวนมากว่า ให้เอาสมุนไพร “หญ้าไผ่น้ำ” มาต้มดื่มวันละ 2 แก้ว ช่วยให้โรคไตดีขึ้น เนื่องจากหญ้าไผ่น้ำมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้คนไข้โรคไตสามารถขับปัสสาวะออกเเละมีอาการบวมลดลง แต่ในความเป็นจริงหญ้าไผ่น้ำทำให้ไตทำงานหนักกว่าเดิม มีผลให้ค่าการทำงานของไตลดลง ดังนั้นอาการปัสสาวะไม่ออกจึงกลับมาเป็นซ้ำอีก และทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งถ้าคนไข้โรคไตยังบริโภคหญ้าไผ่น้ำต่อไป อาจทำให้ไตเสื่อมมากขึ้นหรืออาจเพิ่มความเสี่ยง ทำให้การทำงานของไตลดลงเฉียบพลันจนถึงขั้นฟอกไตได้
มีรายงานในวารสารทางวิทยาศาสตร์ว่า คนไข้มีค่า creatinine สูงขึ้นหรือแปลอีกนัยหนึ่ง คือ อัตราการกรองของไต (estimated Glomerular Filtration Rate) ลดลงจากการบริโภคหญ้าไผ่น้ำ นอกจากนี้ยังมีรายงานคนไข้มีอาการไตวายเฉียบพลันจาการบริโภคหญ้าไผ่น้ำร่วมกับยาแก้ปวดในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal Anti-inflammatory Drugs: NSAID)
2. ชะเอมเทศ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycyrrhiza glabra
ชื่อสามัญ: Liquorice
วงศ์ : Fabaceae
.
ลำต้นมีความยาวประมาณ 1-2 เมตร มีรากใหญ่แตกแขนงจำนวนมาก ใบเป็นใบประกอบลักษณะเป็นรูปขนนก ก้านใบย่อยสั้นมาก แผ่นใบรูปไข่ มีใบย่อยประมาณ 9-17 ใบ ส่วนก้านใบย่อยนั้นจะสั้นมาก ใบจะเป็นสีเขียวอมเหลือง ดอกจะออกเป็นช่อ กลีบดอกจะเป็นสีม่วงอ่อน ๆ และก้านดอกจะสั้นมาก ฝักจะมีลักษณะแบน และผิวข้างนอกจะเรียบ นุ่ม
.
การบริโภคชะเอมเทศ
รากของชะเอมเทศพบสารสําคัญคือสาร glycyrrhizin ซึ่งสารนี้ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 50-100เท่า รากของชะเอมเทศจึงถูกนำไปปรุงรสอาหาร ปรุงยาสมุนไพร เเละใช้เเต่งรสหวานในขนมเเละลูกอม
.
ชะเอมเทศกับโรคไต
ชะเอมเทศมีฤทธิ์ขับปัสสาวะเเละเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะโพเเทสเซียมในเลือดต่ำ ซึ่งภาวะโพเเทสเซียมในเลือดต่ำในขั้นรุนเเรง ทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้
.
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่มีผลเสียต่อโรคไต เช่น ถั่งเช่า น้ำลูกยอ มาฮวง โสม มะเฟือง เป็นต้น สมุนไพรเหล่านี้อาจมีผลเสียต่อไตในตัวของสมุนไพรเอง หรือการบ่งชี้ชนิดของสมุนไพรที่ผิด อาจทำให้การบริโภคสมุนไพรนั้นเป็นอันตรายต่อไตได้ นอกจากนี้การเตรียมสมุนไพรสำหรับบริโภคที่ผิดวิธี อาจทำให้มีสารพิษจากภายนอกเจือปน หรือการบริโภคสมุนไพรที่มีผลกระทบต่อการรักษาของเเพทยแผนปัจจุบัน ดังนั้นการศึกษาสมุนไพรเเละกลไกการทำงานของสมุนไพรต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิตจึงมีความจำเป็น เพื่อให้เราสามารถนำสมุนไพรเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
.
เรียบเรียงโดย : ดร. ชนิญญา วงศ์วรางคณา
นักวิจัยหลังปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยโตเกียว
.
References :
1. Jha V. Herbal medicines and chronic kidney disease. Nephrology (Carlton). 2010 Jun;15 Suppl 2:10-7. doi: 10.1111/j.1440-1797.2010.01305.x. PMID: 20586941.
2. Tangkiatkumjai, M., Boardman, H., Praditpornsilpa, K. et al. Reasons why Thai patients with chronic kidney disease use or do not use herbal and dietary supplements. BMC Complement Altern Med 14, 473 (2014). https://doi.org/10.1186/1472-6882-14-473
3. Tangkiatkumjai, Mayuree (2014) Herbal and dietary supplement use in Thai patients with chronic kidney disease (CKD) and their association with progression of CKD. PhD thesis, University of Nottingham.
4. ชะเอมเทศกับความดันโลหิตสูง – คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล://pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/files/0050.pdf
5. ชัวร์ก่อนแชร์ : หญ้าไผ่น้ำแก้โรคไต จริงหรือ?
.
ติดตามข่าวสารต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้ที่ : www.bsru.ac.th และ www.prinfo.bsru.ac.th
—-
ภาพ/ข่าวโดย : เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ สาขาวิชาสมุนไพรและกัญชาศาสตร์
—-
#BSRURecentnews ศุกร์สมุนไพร EP.031 #BSRUNews
Post Views: 4