{Recent News}
ศุกร์สมุนไพร EP.083
—-
คุณค่าของรังไหม เส้นใยโปรตีนจากธรรมชาติ
.
รังไหมถูกสร้างจากหนอนไหม (silk worm) ซึ่งจัดเป็นแมลงประเภทหนึ่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Bombyx mori อยู่ในวงศ์ Bombycidae มีการเติบโตเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ไข่ (silkworm egg) ตัวหนอน (silkworm) ดักแด้ (silk pupa) และผีเสื้อ (silk moth) ในระยะที่เป็นตัวหนอนนี้เท่านั้น จะมีการกินอาหารคือ ใบหม่อน หนอนไหมจะเจริญเติบโตโดยการลอกคราบประมาณ 3-4 ครั้ง เมื่อหนอนไหมสุกจะหยุดกินอาหาร และพ่นเส้นใยออกมาทำรังห่อหุ่มตัว เพื่อป้องกันศัตรูทางธรรมชาติ เรียกว่า รังไหม (cocoon) มีลักษณะกลมรีคลายเมล็ดถั่ว นั่นเอง
.
รังไหมเป็นโปรตีนธรรมชาติ มีส่วนประกอบหลัก คือ ไฟโบรอิน (fibroin) และเซอริซิน (sericin) โดยไฟโบรอินเป็นองค์ประกอบหลักในรังไหม พบประมาณ 70-80% ในขณะที่เซอริซิน มีประมาณ 20-30% นอกจากนี้ยังพบส่วนประกอบอื่นๆ ได้แก่ ไขมันหรือแว๊กซ์ 0.4-0.8% สารไฮโดรคารบอน (hydrocarbon) 1.2-1.6% สีตามธรรมชาติ (pigment) 0.2% และเถ้า 0.7%
.
ไฟโบรอินหรือโปรตีนเส้นใยชนิดไม่มีขั้ว เป็นส่วนของโปรตีนที่ไม่ละลายในน้ำ แอลกอฮอล์ กรดหรือเบสอ่อน แต่จะละลายในกรดหรือเบสแก่และในสารละลายเกลือ ไฟโบรอินประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ไม่มีขั้วหรือมีขั้วต่ำ กรดอะมิโนที่สำคัญ ได้แก่ ไกลซีน 43% อะลานีน 30% และเซอรีน 12% เป็นต้น ไฟโบรอินถูกนำมาใช้ในการผลิตเป็นเส้นใยไหม ถักทอเป็นผ้าไหม และเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางที่มีสมบัติกันน้ำ ด้วยคุณสมบัติพิเศษของไฟโบรอินที่มีความเหนียว ทนทาน ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ เข้ากันได้กับร่างกาย (biocompatibility) เนื่องจากเป็นโปรตีนที่สกัดสารจากธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้ในร่างกาย (biodegradability) จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ เช่น ไหมเย็บแผลชนิดย่อยสลาย (suture) แผ่นปิดแผล (wound dressing) ตัวพายาในระบบนำส่งยา (carrier) เป็นต้น
.
เซริซินหรือโปรตีนกาวไหม ทำหน้าที่คล้ายกาว (gum-like protein) ยึดไฟโบรอินเป็นเส้นใยต่อเนื่อง 2 เส้นให้ยึดติดกัน ทำให้โครงร่างรังไหมเกิดความเสถียร เซริซินถูกสร้างจากต่อมใต้สมองส่วนกลางของหนอนไหม ในกระบวนการสาวไหมเมื่อนำรังไหมมาต้มในน้ำร้อนจะทำให้เซริซินถูกต้มทิ้งไป เซริซินจัดเป็นโปรตีนที่ละลายในน้ำได้ มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านอนุมูลอิสระ ยั้บยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต เซริซินประกอบด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญ คือ เซอรีน 33% นอกจากนี้เซริซินมีประโยชน์ด้านเครื่องสำอาง เพราะสามารถจับกับ keratin ของผิวหนังและเส้นผมได้ดี สร้างเป็นฟิลม์ป้องกันและดักเก็บความชื้นทำให้ผิวอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้นและลดรอยเหี่ยวย่นได้อีกด้วย
.
จะเห็นว่าเส้นใยธรรมชาติจากรังไหม ไม่ได้นำมาทอเป็นผ้าไหมให้สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาโปรตีนเสันใยจากรังไหม นำไปสู่งานวิจัยและต่อยอด จนกลายเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่รังไหมทั้งในด้านเครื่องสำอางและการแพทย์
.
ภาพประกอบ :
ภาพที่ 1 รังไหมและหนอนไหม (ที่มา : https://www.pexels.com/th-th/photo/6875090/)
.
เรียบเรียงโดย :
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อุมาลี นามดวง
อาจารย์ประจำสาขาวิชาสมุนไพรและกัญชาศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
References :
1. กลยุทธ ดีจริง และพงศธร กองแก้ว. (2561). รายงานการวิจัย เรื่อง การอบแห้งรังไหมโดยใช้การแผ่รังสีอินฟราเรดร่วมกับการพาอากาศร้อน. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. สืบค้นจาก https://fulltext.rmu.ac.th/…/M126147/Deejing%20Kamon.pdf
2. สุวรรณี แทนธานี. (2557). รังไหม..โปรตีนจากธรรมชาติ เพื่อการดูแลสุขภาพผิว. วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ. 14-17. สืบค้นจาก http://lib3.dss.go.th/fulltext/dss_j/2561_66_207_P14-17.pdf
3. Yardpiroon Boonsod and Prasong Srihanam. (2011). Silk: compositions and structures, properties and applications. J Sci Technol MSU. 31(4). 436-442.
.
ติดตามข่าวสารต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้ที่ : www.bsru.ac.th และ www.prinfo.bsru.ac.th
—-
ภาพ/ข้อมูลโดย : เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ สาขาวิชาสมุนไพรและกัญชาศาสตร์
—-
#BSRURecentnews ศุกร์สมุนไพร EP.083 #BSRUNews
.
.
Post Views: 1