{Recent News}
ย่านพหุวัฒนธรรมเก่าแก่แต่สุดคูล
—-
บริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเป็นย่านที่มีความ “คูล” ในหลายรูปแบบเช่น มีทั้งกลิ่นอายความเก่าแก่และความโมเดิร์นอยู่ด้วยกัน หรือจะเป็นแหล่งรวมอาคารหลากหลายรูปแบบทั้งอาคารพาณิชย์ บ้านเรือน สถานศึกษา สถานที่ราชการ ฯลฯ มากมายอยู่ด้วยกันในบริเวณเดียวกัน แต่ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่าเป็นความคูลและเป็นเสน่ห์ของย่านนี้คือการที่เป็นย่านพหุวัฒนธรรม กล่าวคือ เป็นแหล่งรวมหลากหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ในที่อื่นๆ
ติดรอบรั้วมหาวิทยาลัยเป็นย่านชุมชนชาวมอญ (วัดประดิษฐาราม) และชาวลาว (วัดบางไส้ไก่) สำหรับชุมชนชาวมอญวัดประดิษฐาราม มีเทศกาลสงกรานต์ชาวมอญและข้าวแช่ที่เป็นที่รู้จัก ส่วนชุมชนชาวลาววัดบางไส้ไก่มีชื่อเสียงในด้านเป็นแหล่งผลิตขลุ่ยบ้านลาวและหัวโขน ณ บ้านศิลปะไทย ไม่ว่าจะเป็นชาวมอญหรือชาวลาว ทั้งสองวัดนี้เป็นเครื่องแสดงความเชื่อของผู้คนผ่านทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้ ถัดจากปากซอยอิสรภาพ 15 มุ่งหน้าไปทางซอยอิสรภาพ 17 ยังมีคริสตจักรอิสรภาพ แบ๊บติสต์ ที่ชี้ให้เห็นว่าย่านนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธหรือชาวคริสเตียนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
ถัดออกไปจากบริเวณมหาวิทยาลัยบริเวณถนนอรุณอัมรินทร์ มีชุมชนกะดีจีน (กุฎีจีน) หรือชุมชนวัดกัลยาณมิตร บริเวณวัดซางตาครู้ส ศาสนสถานของชาวคาทอลิก และวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร ศาสนสถานของชาวพุทธ ที่อยู่ห่างกันเพียง 400 ในระยะทางเดินถึงกัน นอกจากนี้ติดกับวัดกัลยาณมิตรฯ ยังมีศาสนสถานของชาวจีนอย่างศาลเจ้าเกียนอันเกง ที่มีองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมประดิษฐานด้านใน สร้างโดยชาวจีนที่ตามเสด็จพระเจ้าตากสินฯ บูรณะโดยสร้างขึ้นใหม่ในตำแหน่งเดิมในสมัยรัชกาลที่ 3 และซ่อมแซมในสมัยรัชกาลที่ 5 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
นอกจากจะมีศาสนสถานที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนหลากหลายศาสนาแล้ว ย่านกะดีจีนยังเป็นแหล่งผลิตขนมฝรั่งกุฎีจีนที่สืบทอดมาจากครอบครัวชาวโปรตุเกส อยู่คู่ชุมชนกะดีจีนมายาวนานกว่า 200 ปี ในชุมชนยังมีพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนให้ศึกษาประวัติศาสตร์ของพื้นที่และผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ ชุมขนแห่งนี้ นอกจากชาวจีน ชาวไทย และชาวโปรตุเกสแล้ว ชุมชนกะดีจีนยังเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนอีกหลากหลายเชื้อชาติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น ชาวอินเดีย ชาวญวน และอื่นๆ
ไม่ไกลจากชุมชนกะดีจีนยังมีย่านกุฎีขาว หรือที่หลายคนเรียกว่า “ชุมชนบางหลวง” หรือ “ชุมชนมัสยิดบางหลวง” เป็นชุมชนมุสลิมเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ที่มีทั้งชาวมุสลิมชีอะห์และซุนนีมาแต่เดิมตั้งแต่พื้นที่ย่านนี้ยังเป็นกรุงธนุบรีในรัชสมัยพระเจ้าตากสินฯ ชุมชนกุฎีขาวมีมัสยิดบางหลวง (มัสยิดกุฎีขาว) เป็นสิ่งก่อสร้างโดดเด่นของย่านนี้ เพราะเป็นมัสยิดก่ออิฐถือปูนแห่งเดียวในโลกที่เป็นทรงไทยทั้งหลัง ตัวอาคารเป็นสีขาวทั้งหลัง เป็นที่มาของชื่อชุมชนกุฎีขาว ถือเป็นอัตลักษณ์ของย่านกุฎีขาวที่ไม่เหมือนที่ใด นอกจากนี้ในย่านใกล้เคียงยังมีมัสยิดสวนพลู ตั้งอยู่บริเวณบางยี่เรือ ตั้งอยู่ริมทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย และมัสยิดต้นสน บนถนนอรุณอัมรินทร์ อยู่ตรงข้ามวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหารของชาวพุทธอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าพื้นที่รอบรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเป็นย่านพหุวัฒนธรรมอย่างแท้จริง มีผู้คนที่เป็นลูกหลานนานาชาติที่ครั้งหนึ่งเคยอพยพมาตั้งถิ่นฐานในย่านนี้ นำเอาวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเองมาผสมผสานกับวัฒนธรรมฝั่งธนบุรีของชาวไทย เหล่านี้เป็นผู้คนที่นับถือศาสนาแตกต่างกัน ทั้งพุทธ คริสเตียน คริสตัง และอิสลาม แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ย่านรอบรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาจึงเป็น “ย่านสุดคูล” ที่ชาวบ้านสมเด็จฯ ภาคภูมิใจ
—-
ข้อมูลจาก : กรมศิลปากร, The Momentum, Urban Creature, วิกิชุมชน, Wongnai ทริปกินเที่ยว
—-
—-
ภาพ/ข้อมูลโดย : เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ บ้านสมเด็จเฟสติวัล
Post Views: 1