ศุกร์สมุนไพร EP.036
—-
เกลือสีชมพู
.
เกลือสีชมพูหรือเกลือหิมาลัยสีชมพู (Himalayan pink salt) เป็นเกลือทีนิยมใช้ในร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้านสเต็ก ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภค เพราะเป็นเกลือที่มีรสชาติไม่เค็มแหลม มีความอมหวาน กลมกล่อม แตกต่างจากเกลือทั่วไป นอกจากนี้ หลายคนยังเชื่อว่าเป็นเกลือที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
เกลือสีชมพู เป็นเกลือที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัย ผลิตได้จากเหมืองเกลือ Khewra ในเทือกเขาหิมาลัย แคว้นปัญจาบ ประเทศปากีสถาน เกลือสีชมพูเกิดจากการระเหยของน้ำทะเลเป็นเวลากว่า 250 ล้านปีก่อน จนกลายเป็นผลึกเกลือสีชมพูที่ประกอบด้วยแร่ธาตุประมาณ 84 ชนิด เกลือสีชมพูมีโซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride) เป็นส่วนประกอบหลักร้อยละ 96–99 มีแร่ธาตุรอง เช่น แคลเซียม โครเมียม ซัลเฟต แมกนีเซียม สังกะสี และเหล็ก ในปริมาณต่างกันไป สีชมพูของเกลือเกิดจากการมี ion oxide เป็นองค์ประกอบ เป็นเกลือที่ได้รับการยกย่องว่ามีประโยชน์สูงสุด และบริสุทธิ์ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามด้วยแร่ธาตุในเกลือชมพูมีปริมาณไม่มากพอที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ต้องรับประทานมากกว่า 30 กรัมจึงจะได้รับประโยชน์จากแร่ธาตุเหล่านี้ ซึ่งสูงเกินกว่าปริมาณโซเดียมที่ควรได้รับต่อวัน จึงอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
เกลือสีชมพูมีปริมาณโซเดียมน้อยกว่าเกลือทั่วไป โดยมีประมาณโซเดียม 388 มิลลิกรัมต่อ ¼ ช้อนชา ขณะที่เกลือทั่วไปโซเดียม 581 มิลลิกรัมต่อ ¼ ช้อนชา แต่ด้วยรสชาติที่อร่อยกว่าเกลือทั่วไปอาจต้องระมัดระวังในการรับประทานที่ไม่ควรมากเกินไป โดยความต้องการโซเดียมต่อวันของคนเราจะแตกต่างกันไปในแต่ละคนขึ้นกับเพศ อายุ และสภาวะของร่างกาย แต่ไม่ควรกินโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน
การรับประทานเกลือสีชมพูอาจนำไปสู่ภาวะการขาดไอโอดีนได้ เนื่องจากเป็นเกลือที่ไม่ผ่านกระบวนการเติมไอโอดีนในการแปรรูปเหมือนเกลือแกง จึงมีปริมาณไอโอดีนน้อย และถ้ารับประทานเกลือสีชมพูมากเกินไปอาจทำให้ได้รับโซเดียมมากเกินความต้องการของร่างกาย และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น
– ทำให้ใบหน้า แขน ขาบวม และน้ำหนักเกิน ซึ่งเกิดจากการคั่งของเกลือและน้ำในอวัยวะต่าง ๆ
– ความดันโลหิตสูง
– เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจโต (Enlarged Heart Muscle) หัวใจล้มเหลว (Heart Failure) โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต
สำหรับคุณประโยชน์ต่างๆยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจน แต่ที่เด่นชัดน่าจะเป็นเรื่องรสชาติที่อร่อยกว่าเกลือทั่วไป อย่างไรก็ตามด้วยราคาที่สูงมาก อาจเป็นเกลือที่ไม่คุ้มค่าในการนำมาบริโภคในชีวิตประจำวัน แต่หากนำมาปรุงรสเนื่องในโอกาสพิเศษสำหรับอาหารบางเมนูก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
.
ภาพประกอบ :
ภาพที่ 1 เกลือสีชมพูหรือเกลือหิมาลัย (ที่มา: https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1377783)
.
เรียบเรียงโดย :
ผู้ช่วยศาสาตราจารย์ ดร. นฤวรรณ ภัทรพงศ์ดิลก
อาจารย์ประจำสาขาวิชาสมุนไพรและกัญชาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
.
References :
1. รู้จักเกลือชมพู และวิธีบริโภคให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ https://www.pobpad.com
2. รู้จัก ‘เกลือ’ 7 ชนิด พร้อมประโยชน์ที่นักปรุงควรใช้ให้ https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1377783
3. เกลือหิมาลัย https://th.wikipedia.org
4. เกลือหิมาลัย #อาหารกับข้อสงสัยเรื่องสุขภาพhttps://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/ondemand/
มหัศจรรย์สีชมพู ของ“เกลือหิมาลายัน” https://www.springnews.co.th/news/91626
.
ติดตามข่าวสารต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้ที่ : www.bsru.ac.th และ www.prinfo.bsru.ac.th
—-
ภาพ/ข่าวโดย : เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ สาขาวิชาสมุนไพรและกัญชาศาสตร์
—-
Post Views: 0